LINE : @UFAZEED
×

เพิ่มกำไรง่าย ๆ แค่เข้าใจค่าน้ำบอล

                ค่าน้ำบอล อาจเรียกได้ว่าเป็นหัวใจในการทำกำไรของการแทงบอลออนไลน์ เพราะเกมนี้ไม่เหมือนเกมคาสิโนอื่น ๆ ที่มีอัตราจ่ายตายตัวหรือสามารถใช้สูตรเดินเงินได้ การจะทำกำไรนอกจากวิเคราะห์บอลได้ เข้าใจราคาบอลแล้ว ค่าน้ำบอลก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องศึกษาเอาไว้ หลายคนพลาดทำกำไรอย่างที่ต้องการหรือถึงกับขาดทุนง่าย ๆ เพียงเพราะไม่เข้าใจหรือไม่มีความรู้เรื่องค่าน้ำบอลเลย บทความนี้เราจะพาไปรู้จักกับค่าน้ำบอลกันให้มากขึ้น อย่างน้อยจะได้รู้ว่าค่าน้ำแบบไหนที่คุ้มค่าแก่การลงทุน

ค่าน้ำบอล คืออะไร

ค่าน้ำบอล เรียกได้ว่าเป็นค่าธรรมเนียมที่ถูกตั้งไว้เพื่อหัก % จากลูกค้าหากชนะเดิมพัน เหมือนกับการหักค่าคอมมิชชั่นในบาคาร่า ปกติแล้วค่าน้ำหรือราคาบอลจะถูกแบ่งด้วยสี, สัญลักษณ์ หรือข้อความ ที่จะถูกกำกับเอาไว้ด้านหลังของราคาต่อรองบอล ซึ่งโต๊ะบอลทั่วไปกับเว็บแทบบอลออนไลน์จะมีวิธีคิดค่าน้ำที่แตกต่างกันไป

วิธีคิดค่าน้ำบอลโต๊ะทั่วไป

สำหรับโต๊ะบอลทั่วไปจะมีอยู่ด้วยกัน 5 ราคา คือ ราคาขาว, ราคาลบสิบ, ราคาลบห้า, ราคาบวกสิบ และราคาเสมอ แต่ละราคาจะมีวิธีคิดดังนี้

ราคาขาว

  • แทงทีมต่อ 100 บาท ชนะได้ 80 บาท แพ้เสียเต็ม
  • แทงทีมรอง 100 บาท ชนะได้เต็ม แพ้เสียเต็ม

ราคาลบสิบ (-10)

  • แทงทีมต่อหรือทีมรอง 100 บาท ชนะได้ 90 บาท แพ้เสียเต็ม

ราคาลบห้า (-5)

  • แทงทีมต่อ 100 บาท ชนะได้เต็ม แพ้เสียเต็ม
  • แทงทีมรอง 100 บาท ชนะได้ 80 บาท แพ้เสียเต็ม

ราคาบวกสิบ (+10)

  • แทงทีมต่อ 110 บาท ชนะได้ 80 บาท แพ้เสียเต็ม
  • แทงทีมรอง 90 บาท ชนะได้ 100 บาท แพ้เสียเต็ม

วิธีคิดค่าน้ำแบบบอลออนไลน์

การแทงบอลออนไลน์จะมีรายละเอียดปลีกย่อยมากกว่า คือจะมีการคิดในส่วนของเรื่องอัตราจ่ายและราคาต่อรอง โดยที่ทุกคู่จะมีตัวเลขทศนิยมกำกับไว้ที่ราคาต่อรอง การคิดก็แค่เอาเงินเดิมพันที่วางไว้มาคูณกับตัวเลขที่วางเดิมพัน เช่น แทงบอล 100 บาท หากชนะจะได้เงิน 210 บาท เป็นต้น

โดยทั่วไปอัตราจ่ายจะอยู่ระหว่าง 0.27-115 หรืออาจมากกว่านี้ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ แต่ก็จะมีการปรับเปลี่ยนทุก 2 นาที ที่เราเรียกกันว่าราคาไหล เลยทำให้นักพนันมืออาชีพเลือกที่จะแทงบอลช่วงก่อนจบ 5 นาทีสุดท้ายของเกมสักเล็กน้อยเพื่อโอกาสชนะที่มากขึ้น

ราคาบอล

แม้ว่าจะมีรายละเอียดมากกว่า แต่การคิดค่าน้ำบอลออนไลน์จะง่ายกว่าตรงที่คูณอัตราจ่ายไปได้เลย ไม่ต้องมาเสียเวลาคิดค่าเสียน้ำเหมือนโต๊ะบอลทั่วไป เหลือแค่ดูราคาต่อรองให้ดีก่อนวางเดิมพันก็พอ สำหรับราคาบอลจะมีวิธีอ่านแตกต่างกันไปดังนี้

0.25 อ่านว่า ปป หรือ เสมอควบครึ่ง

  • ทีมต่อ : ชนะมากกว่า 1 ลูก ได้เต็ม, เสมอ เสียครึ่ง, แพ้ เสียเต็ม
  • ทีมรอง : ชนะ ได้เต็ม, เสมอ เสียครึ่ง, แพ้ 1 ลูกขึ้นไป เสียเต็ม

0.5 อ่านว่า ครึ่งลูก

  • ทีมต่อ : ชนะมากกว่า 1 ลูก ได้เต็ม, เสมอหรือแพ้ เสียเต็ม
  • ทีมรอง : ชนะ ได้เต็ม, เสมอ เสียครึ่ง, แพ้ 1 ลูกขึ้นไป เสียเต็ม

0.75 อ่านว่า ครึ่งควบลูก

  • ทีมต่อ : ชนะมากกว่า 1 ลูก ได้ครึ่ง, เสมอหรือแพ้ เสียเต็ม
  • ทีมรอง : ชนะหรือเสมอ ได้เต็ม, แพ้ 1 ลูก เสียครึ่ง, แพ้ 2 ลูกขึ้นไป เสียเต็ม

1.0 อ่านว่า หนึ่งลูก

  • ทีมต่อ : ชนะมากกว่า 2 ลูก ได้เต็ม, เสมอ ไม่ได้ไม่เสีย, แพ้ 2 ลูกขึ้นไป เสียเต็ม
  • ทีมรอง : ชนะหรือเสมอ ได้เต็ม, แพ้ 1 ลูก ได้ครึ่ง, แพ้ 2 ลูกขึ้นไป เสียเต็ม

1.25 อ่านว่า ครึ่งควบลูก

  • ทีมต่อ : ชนะ 2 ลูกขึ้นไป ได้เต็ม, ชนะ 1 ลูก เสียครึ่ง, เสมอหรือแพ้ เสียเต็ม
  • ทีมรอง : ชนะได้เต็ม, แพ้ 1 ลูก ได้ครึ่ง, แพ้ 2 ลูกขึ้นไป เสียเต็ม

1.50 อ่านว่า ลูกครึ่ง

  • ทีมต่อ : ชนะ 2 ลูกขึ้นไป ได้เต็ม, ชนะ 1 ลูก หรือเสมอหรือแพ้ เสียเต็ม
  • ทีมรอง : ชนะได้เต็ม, แพ้ 2 ลูกขึ้นไป เสียเต็ม

1.75 อ่านว่า ลูกควบครึ่ง

  • ทีมต่อ : ชนะ 2 ลูกขึ้นไป ได้ครึ่ง, ชนะ 1 ลูก หรือเสมอหรือแพ้ เสียเต็ม
  • ทีมรอง : ชนะหรือเสมอ ได้เต็ม, แพ้ 2 ลูกขึ้นไป เสียเต็ม

2.0 อ่านว่า สองลูก

  • ทีมต่อ : ชนะ 3 ลูกขึ้นไป ได้เต็ม, ชนะ 2 ลูก ไม่ได้ไม่เสีย, ชนะ 1 ลูก หรือเสมอหรือแพ้ เสียเต้ม
  • ทีมรอง : ชนะ ได้เต็ม, แพ้ 3 ลูกขึ้นไป เสียเต็ม

ค่าน้ำบอลที่พบได้บ่อย

นอกจากราคาบอล การแทงบอลออนไลน์จะต้องดูค่าน้ำบอลด้วยเช่นกัน ปกติแล้วค่าน้ำบอลจะแตกต่างกันไปตามโซนของโต๊ะบอลที่เปิดให้บริการ แต่ที่นิยมใช้อ้างอิงกันหรือเห็นได้บ่อยจะมีอยู่ 3 แบบคือ

ค่าน้ำมาเลย์ (MY)

หรือที่เรียกกันว่าค่าน้ำดำ-แดง เพราะคู่บอลที่ใช้ราคาน้ำมาเลย์จะแบ่งราคาออกเป็น 2 สี คือ

  • ราคาน้ำดำ ใช้ตัวอักษรสีดำ เป็นค่าน้ำบอลที่มีค่าเป็นบวก เวลาชนะจะคิดเงินตามราคาน้ำ เวลาเสียก็จะเสียตามทุนที่วางเดิมพัน เช่น แทงราคาน้ำดำ 9 ด้วยเงิน 100 บาท ถ้าชนะจะได้กำไร 90 บาท แพ้เสีย 100 เป็นต้น
  • ราคาน้ำแดง แสดงราคาด้วยตัวอักษรสีแดง เป็นค่าน้ำบอลที่มีค่าติดลบ เวลาชนะจะได้เงินเต็มจำนวนที่แทง เวลาเสียจะคิดตามราคาน้ำ เช่น แทงราคาน้ำแดง -0.9 ด้วยเงิน 100 บาท ถ้าชนะจะได้กำไร 100 บาท แพ้เสีย 90 บาท เป็นต้น

ค่าน้ำฮ่องกง (HK)

เป็นค่าน้ำบอลที่นิยมในเอเชีย เพราะมีราคาสูงกว่าทุน ปกติจะอยู่ที่ 1.2-1.5 ขึ้นไป สมมติว่าแทงบอล 100 บาท ที่ค่าน้ำฮ่องกง 1.2 ถ้าชนะจะได้กำไร 120 บาท เลยทีเดียว

ค่าน้ำยุโรป (EU)

หรือค่าน้ำเดซิมอล ได้รับความนิยมในยุโรป จุดเด่นคือให้อัตราต่อรองสูง แต่เงินที่ได้ก็เป็นการรวมต้นทุนเอาไว้แล้ว พอหักเงินทุนออกก็แทบจะไม่ต่างจากค่าน้ำบอลประเทศอื่นมากนัก ปกติค่าน้ำยุโรปจะอยู่ที่ 2.0-2.5 ขึ้นไป สมมติว่าแทงบอล 100 บาท ที่ค่าน้ำ 2.2 หากชนะจะได้เงินกลับมา 220 บาท หักทุนก็เหลือกำไร 120 บาท นั่นเอง